เดือน: มีนาคม 2024

อนิเมะในแบบภาพยนตร์นั้นดูง่าย เนื้อหาแม้จะสร้างจากมังงะ แต่ก็มีการปรับบท โครงเรื่อง ให้กระชับเพราะระยะเวลาในการฉายจะเท่ากับภาพยนตร์คือ 1.30-2.30 ชั่วโมง แตกต่างจากแบบซีรีย์ที่จะมีหลายตอน ความโดดเด่นของภาพยนตร์อนิเมะมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การเลือกเนื้อหาจากมังงะมานำเสนอ, การวาดฉากที่สวยงามสมจริง, เพลงธีมและเพลงประกอบหลักที่ส่วนใหญ่มักจะได้รับความความนิยม สำหรับ หนังอนิเมะ 5 เรื่องที่ถูกยกให้เป็นอนิเมะสุดประทับใจมีเรื่องไหนบ้าง เรานำมาแนะนำกันแล้ว

1.Your Name Kimi no Na wa หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ

ไม่มีใครปฎิเสธได้เลยว่า Your Name คือ หนังอนิเมะ ที่ทำให้หลายคนน้ำตาซึม และอบอุ่นไปพร้อมๆ กันรวมทั้งแต่ละซีนในเรื่องก็ทำออกมาได้สวย สถานที่จริงที่เป็นต้นแบบการสร้างแต่ละฉากนั้น ก็กลายเป็นแลนด์มาร์ก รวมทั้งเพลงประกอบจากวง Radwimps ก็กลายเป็นเพลงฮิต เนื้อหาของอนิเมะมีทั้งความโรแมนติกและแฟนตาซี ยิ่งทำให้น่าติดตาม โดยเฉพาะการที่พระเอกนางเอกสามารถสลับวิญญาณเข้าร่างของแต่ละฝ่าย และช่วยกันแก้ไขภัยพิบัติที่เลวร้ายจากฝนดาวตก แม้ว่าในช่วงเวลานั้นทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะตามหาตัวตนจริงๆ ของกันและกัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จนสุดท้ายเมื่อภัยพิบัติผ่านพ้นไป ทั้งสองจึงได้พบกัน

2.Flavors of Youth  วัยแห่งฝันงดงาม

อนิเมะจากทีมงานเดียวกันกับ Your Name โดยการทุ่มทุนสร้างของ Netflix แม้ว่าในช่วงที่ออกฉาย หนังอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้มีกระแสโด่งดังมากนัก แต่จากเสียงตอบรับของแฟนๆ อนิเมะต่างยอมรับและบอกกันปากต่อปากจนทำให้ได้รับการโหวตให้เป็นอีกหนึ่งอนิเมะสุดประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่แบ่งออกเป็น 3 เรื่องสั้นที่เน้นความรัก มิตรภาพ การตามหาความฝัน ซีนต่างๆ ที่วาดออกมาได้งดงามโดยมีโลเคชั่นหลักคือประเทศจีน เรียกง่ายๆ ว่าต้องการขายความเป็นจีนผ่าน
อนิเมะโดยทีมงานญี่ปุ่น ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยจริงๆ

3.Suzume no Tojimari การผนึกประตูของซุซุเมะ

หนังอนิเมะที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในช่วงที่เข้าฉาย เรื่องราวที่มีทั้งแฟนตาซี มิตรภาพ ความรัก และภัยพิบัติ เนื้อหานั้นมีการอ้างอิงจากภัยพิบัติใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 2011 ถูกนำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นอนิเมะที่ประทับใจ และลุ้นไปกับตัวเอกที่ต้องหาทางไม่ให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรง ความลับที่อยู่หลังประตูคือคำตอบ ตลอดทั้งเรื่องมีทั้งความสนุก ความประทับใจ  นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของซีนที่สวยงาม การเล่าเรื่องที่กระชับ เพลงประกอบที่ไพเราะ ทำให้ได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกจากนักวิจารณ์ทั่วโลก ใครที่ยังไม่ชมถือว่าพลาดกันจริงๆ

4.Nakitai Watashi wa Neko o Kaburu  A Whisker Away เหมียวน้อยคอยรัก

เรื่องราวโรแมนติก แฟนตาซี ของเด็กสาวที่มีความรักกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ซึ่งเธอพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับเขา แต่ก็ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจ แต่แล้ววันหนึ่งเธอสวมหน้ากากรูปแมวและกลายร่างเป็นแมวน้อยสุดน่ารัก เธออาศัยความแปลกประหลาดนี้เข้าหาเขา แต่ในอีกมุมก็เหมือนเธอต้องการหนีปัญหาหลายๆ อย่างทั้งเรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว จนสุดท้ายเธอต้องเลือกว่าจะเป็นแมวหรือเป็นคน ที่ต้องลุ้นกันจนซีนสุดท้ายของเรื่อง  แม้ว่าการเล่าเรื่องจะเป็นแบบเรื่อยๆ แต่ก็มีหลายจุดที่ประทับใจเพราะงานสร้างที่ปราณีตในทุกซีน ฉากสวยๆ และความน่ารักของน้องแมว ก็ทำให้ภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้อยู่ในใจของแฟนๆ 

5.Her Blue Sky ท้องฟ้าสีฟ้าของเธออนิเมะ

ที่หลายคนบอกว่าปวดตับ มีความหน่วงในระดับปานกลาง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้คอภาพยนตร์อนิเมะต่างบอกต่อว่าควรดู เนื้อหาเหมือนจะเน้นที่ความรักแบบหน่วงๆ แต่ก็แฝงไปด้วยเรื่องราวของการมีชีวิตที่ต้องดิ้นรนจากตัวละครหลักสองสาวพี่น้อง ที่พ่อแม่เสียชีวิตกระทันหันพี่สาวต้องละทิ้งความรัก ความฝัน เพื่อเลี้ยงดูน้องสาวจนเวลาผ่านไปสิบกว่าปี คนรักในอดีตได้หวนคืนมาอีกครั้งและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาความรักระหว่างพี่น้อง เรื่องราวที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาจากการนำเสนอ รวมทั้งโปรดักส์ชั่นที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นซีนในหนังที่ทำออกได้สวย หรือแม้แต่เพลงประกอบ ทำให้เรื่องนี้ถือเป็นอนิเมะอีกเรื่องที่น่าประทับใจ แต่แอบบอกสักนิดบางช่วงอาจจะเพลียใจกับความรักหลายเส้าสักหน่อย แต่รับรองว่ามีแง่คิดดีๆ ให้ต้องวิเคราะห์ตามจนลืมความหน่วงกันเลยทีเดียว

บทส่งท้าย

5 หนังอนิเมะสุดประทับใจ ที่นำเสนอวันนี้เชื่อว่าน่าจะตรงใจแฟนๆ อนิเมะไม่มากก็น้อย เพราะทุกเรื่องที่ได้รับการโหวต การแนะแนำจากคออนิเมะนั้นมีความโดดเด่นทั้งเนื้อหา การนำเสนอ โปรดักส์ชั่น หรือแม้แต่เพลงประกอบ หลายๆ คนน่าจะได้ชมกันครบทุกเรื่อง หรือบางคนอาจจะพลาดบางเรื่องไป ก็ลองเปิดใจติดตามกัน รับรองว่าทุกเรื่องที่รวมมาวันนี้ไม่ทำให้แฟนๆ อนิเมะผิดหวังแน่นอน และอย่าพลาดกับเรื่องราวในแวดวงอนิเมะ มังงะ ที่ทางเว็บไซด์ของเราจะมีมานำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะในตำนาน อนิเมะใหม่ๆ หรือข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆ จากทั้งญีปุ่นและประเทศอื่นๆ รับรองว่าเราอัพเดทต่อเนื่องไม่ให้แฟนๆ ได้พลาด

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

หน้ากากแก้ว ตำนานมังงะและอนิเมะที่คาใจมานานกว่า 40 ปี 

Garasu no Kamen หน้ากากแก้ว หรือ นักรักโลกมายา มังงะในตำนานนักอ่านยุคปลาย 70-90 ตีพิมพ์ครั้งแรกช่วงปี 1976 ที่หลายคนติดใจลายเส้นสวยๆ จากผลงานของ ซูซูเอะ มิอูจิ เนื้อหาของมังงะเรื่องนี้เล่าถึงวงการละครเวทีของญี่ปุ่น ที่ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์ พรแสวง โอกาส ความอนทด และเล่ห์เหลี่ยมสารพัดเพื่อให้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการ นอกจากลายเส้นสวย เนื้อหาเข้มข้นแบบโรแมนติกดราม่าแล้ว มังงะเรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะในปี 1984 ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากและมีถึง 51 ตอนส่วนมังงะนั้นมี 49 เล่ม รวมทั้งมีการนำไปสร้างเป็นละครเวที, ละครโนห์, ละครวิทยุ ในญี่ปุ่นซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างสูงของมังงะเรื่องนี้เลยทีเดียว

นอกจากนี้ในส่วนของมังงะยังถูกแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลกรวมทั้งไทย แต่บทสรุปของหน้ากากแก้ว หรือ นักรักโลกมายา ทำให้นักอ่านยุคเก่าคาใจ เพราะเรื่องราวมันค้างคาเนื่องจากคนเขียนหยุดเขียนไปเฉยๆ จนกระทั่งตอนนี้ยังมีคนตามหาตอนจบของมังงะ แต่ในอนิเมะแม้จะมีถึง 51 ตอนแต่ก็จบแค่ภาคแรก และแฟนๆ ยังหวังว่าจะมีภาคสอง แต่ก็นั้นล่ะหลายคนรอจนแก่ก็ยังไม่มีวี่แวว สมกับเป็นตำนานจริงๆ

จุดเด่นของมังงะและอนิเมะหน้ากากแก้ว

เนื้อหาที่เข้มข้นน่าสนใจ เล่าเรื่องของวงการละครเวทีญี่ปุ่น ที่ต้องบอกว่าเป็นศิลปะอีกแขนงที่ยังได้รับความสนใจในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และการถูกนำมาเล่าในฉบับการ์ตูนที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ในสมัยนั้นทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูง และการถูกนำมาสร้างในหลายๆ เวอร์ชั่นยิ่งทำให้โดดเด่น ต้องบอกเลยว่าเนื้อหาของหน้ากากแก้ว หรือ นักรักโลกมายา ไม่ตกยุคจริงๆ หากเทียบกับเนื้อหาของ
มังงะในยุคนี้

ในส่วนของอนิเมะต้องยอมรับเลยว่าสร้างจากต้นฉบับได้ตรงเป๊ะ ตัวละครทุกตัวถอดแบบจากภาพวาดได้อย่างสวยงาม แม้ว่าในยุคที่สร้างอนิเมะนั้นเทคนิคในการสร้างยังไม่เทียบเท่ากับยุคนี้ก็ตาม แต่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ แสงสีในซีนสวยงาม และการสื่ออารมย์ผ่านลายเส้นที่เคลื่อนไหวก็ทำได้ดีมากๆ

หน้ากากแก้ว ความจริง ความฝัน และการต่อสู้ในวงการมายา

คงต้องบอกว่าวงการมายาไม่ว่าจะยุคสมัยไหนล้วนเต็มไปด้วย ความจริง ความฝัน การต่อสู้เพื่อให้ไปถึงจุดสูงสุด มังงะเรื่องหน้ากากแก้วได้เล่าถึงประเด็นเหล่านี้ได้อย่างลื่นไหล การจะเป็นนักแสดงไม่ใช่แค่หน้าตาที่สวยงาม แต่ต้องมีพรสวรรค์ ความพยายาม โอกาส และการสนับสนุน ใครจะเชื่อว่าเรื่องราวจากปลายยุค 70 ที่ผ่านลายเส้นในหนังสือการ์ตูน และได้โลดแล่นในแบบอนิเมะ รวมทั้งละครเวที จะแฝงไปด้วยความเป็นจริงของวงการนี้ จนกลายเป็นตำนานที่หลายคนยังอยากติดตาม

อนิเมะ หน้ากากแก้ว ใครไม่เคยดูถือว่าพลาดจริงๆ

คงต้องบอกกันตรงๆ สำหรับใครที่ไม่เคยชม อนิเมะ หน้ากากแก้ว ถือว่าพลาดมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามตั้งแต่ยุคมังงะ แม้ว่าดูแล้วอาจจะค้างๆ คาๆ กับตอนจบที่แท้จริงก็ตาม แต่ก็ยังช่วยเยียวยาความคาใจจากการอ่านมังงะอยู่บ้าง และการได้เห็นตัวละครมังงะในดวงใจ โลดแล่นในแบบอนิเมะทำให้เปิดจินตนาการจากการอ่านได้มากจริงๆ เราเชื่อว่าหลายๆ คนที่เป็นแฟนมังงะเรื่องนี้ยังคงรอคอยตอนสุดท้ายแบบสมบูรณ์อยู่แน่ๆ ดังนั้นการดูอนิเมะเรื่องนี้ก็น่าจะเติมเต็มส่วนนี้กันได้บ้าง และจุดเด่นในอนิเมะเรื่องนี้ก็มีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ลายเส้นของตัวละครที่ถอดแบบจากมังงะได้เต็มร้อย เพลงประกอบที่ไพเราะและมีถึง 24 เพลง

นอกจากนี้การสร้างในแบบอนิเมะสามเวอร์ชั่นคือในปี 1984 เป็นเวอร์ชั่นแรกโดยเป็นผลงานของ สตูดิโอ เอเคน กำกับโดย ยูซากุ ซากาโมโตะ , กิซาบูโร ซูงิอิ, โทชิมากะ สึโนดะ ฉายผ่านเครือข่าย นิปปงทีวี และในปี 1998 สร้างในแบบ OVA หรือ การ์ตูนที่ไม่มีการฉายทั่วไปแต่สร้างเพื่อขายโดยตรงบันทึกผ่าน วิดิโอเทป, CD เป็นต้น และถูกสร้างอีกครั้งในปี 2005 กำกับโดย มาโมรุ ฮามาซุ และสตูดิโอ ทีเอ็มเอสเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฉายผ่านเครือข่าย ทีวีโตเกียว แบบนี้ไม่เรียกตำนานคงไม่ได้แล้วเพราะมีน้อยมากๆ ที่มังงะจะถูกนำมาเสนอในรูปแบบอนิเมะหลายเวอร์ชั่น

หน้ากากแก้ว เวอร์ชั่นลับฉบับไลฟ์แอคชั่นที่ถูกลืม

แฟนๆ มังงะและอนิเมะ หน้ากากแก้วแทบไม่รู้เลยว่ามีฉบับไลฟ์แอคชั่น นั่นคือการทำเป็นซีรีย์ ซึ่งมีการสร้างในปี 1997 ฉายทาง TV Asahi แต่เป็นการดัดแปลงเนื้อหาจากฉบับมังงะไปบางส่วน เพื่อให้กระชับและเข้มข้นเหมาะกับการสร้างเป็นละครในยุคนั้น ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้นำแสดงโดย Yumi Adachi, Yoko Nogiwa, Seiichi Tanabe

บทสรุปสุดท้ายที่ หน้ากากแก้ว จะยังคงเป็นตำนานที่ไม่มีบทสรุป

ไม่ว่าจะเป็นมังงะ หรือ อนิเมะ หน้ากากแก้วจะยังคงเป็นตำนานคาใจคนยุค 70-90 แน่นอน หรือแม้แต่คนรุ่นหลังๆ ที่ได้อ่านเรื่องราวของมังงะและอนิเมะเรื่องนี้ เพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มของตอนจบที่แท้จริงเพราะข้อมูล อ.ซูซูเอะ มิอูจิ ผู้ให้กำเนิดเรื่องนี้นั้น แทบไม่มีข้อมูลใดๆ บนโลกออนไลน์เลย แม้ว่าหลายปีก่อนจะมีข่าวหลุดออกมาว่าสาเหตุที่หยุดเขียนเพราะสาเหตุส่วนตัว แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ผลงานของเขาก็ยังคงถือเป็นตำนานที่ยังมีแฟนๆ รอตอนจบ

ขอขอบคุณคลิปจาก read blackcat

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

แนะนำอนิเมะ From Me to You Kimi ni Todoke ฝากใจไปถึงเธอ

ฝากใจไปถึงเธอ From Me to You Kimi ni Todoke จากมังงะสุดซึ้งสู่การสร้างเป็นซีรีย์ ภาพยนต์ และ อนิเมะ ที่แฟนๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุก ซึ้ง และอบอุ่นมาก แต่ละเวอร์ชั่นมีความแตกต่างกันพอสมควร สำหรับเวอร์ชั่นอนิเมะนั้น มีการสร้างถึงสองภาคคือ ภาคแรกในปี 2009 และ ภาคสองในปี 2011 จับรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างจากเวอร์ช้่นภาพยนต์ และ ซีรีย์ ได้อย่างลงตัว ทำเอาแฟนๆ มังงะ ถึงกับยกนิ้วให้กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังติดอันดับอนิเมะที่มีเพลงประกอบเพราะแห่งปีในช่วงที่เข้าฉายอีกด้วย แม้จะเป็นอนิเมะที่ผ่านมาหลายปี แต่ยังติดอันดับการโหวตของคออนิเมะแทบทุกปี หากไม่อยากพลาดความน่าสนใจ แนะนำให้อ่านข้อมูลคร่าวๆ ที่ทำให้รู้จักกับอนิเมะเรื่องนี้กันสักนิด เพราะตอนนี้มีข่าวแล้วว่าจะมีกาฉายภาค 3 ในเน็ตฟลิกซ์

เนื้อเรื่อง From Me to You Kimi ni Todoke

โครงเรื่องเน้นความสัมพันธ์ของเพื่อน และความรักในวัยหนุ่มสาว ผ่านตัวละครหลักคือ คุโรนุมะ ซาวาโกะ เด็กสาวที่ขี้กลัว ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นๆ เพราะฉายาผีสาว ซาดาโกะ ทำให้ไม่มีใครเข้าใกล้ตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เพียงแต่เข้าหาคนอื่นไม่เป็น จนกระทั้งได้พบกับ คาเสะฮายะ ที่ประทับใจในรอยยิ้มของเธอ และอยากเข้าใกล้ทำให้เขาเอาตัวเองเขามาพัวพันกับหญิงสาว และกลายเป็นการพาเธอเข้าสู่มิตรภาพใหม่ๆ มีเพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือ แต่เธอยังคงไม่รู้ถึงความในใจของเขา ทำให้เพื่อนๆ ต้องคอยลุ้นกันว่าคู่นี้จะลงเอยกันตอนไหน มิตรภาพของพวกเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร

ความน่าสนใจของอนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke

ใครที่เคยดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ และ ซีรีย์มาแล้ว แนะนำว่าให้ลืมไปเลย เพราะเวอร์ชั่นอนิเมะ จะยึดโครงเรื่องหลักที่เหมือนกันแต่รายละเอียดนั้นแตกต่างกันพอสมควร สำหรับจุดเด่นความน่าสนใจในเวอร์ชั่นนี้คือ

• การใส่รายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้เนื้อเรื่องสนุกขึ้น
• เพลงประกอบเพราะ
• ลายเส้นในแต่ซีนเรียบง่ายสวยงามและอบอุ่น
• การเล่าเรื่องผ่านตัวละครแต่ละตัวทำได้อย่างน่าสนใจ
• เนื้อหาแต่ละตอนไม่ยืดจนเกินไป

จุดด้อยของ อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke

มีจุดเด่นก็ต้องมีจุดด้อย สำหรับ อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke  มีบางประเด็นที่ถือว่าเป็นจุดอ่อนเช่น

• การมีเวอร์ชั่เปรียบเทียบ แม้ว่าจะผลิตออกมาคนละช่วงเวลา แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีผลพอสมควร โดยเฉพาะเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ทำได้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
• ความเรียบง่ายในบางซีนที่ทำให้ดูเนือยๆ ไปบ้าง
• การแยกเป็นหลายภาค และฉายในช่วงเวลาที่ห่างกันทำให้ได้รับความสนใจน้อยลง

ความประทับใจของ อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke

เรื่องราววัยมัธยมเป็นอะไรที่สดใส เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke สื่อเรื่องราวตรงนี้ออกมาได้เต็มร้อย นอกจากเรื่องราวความรัก มิตรภาพระหว่างเพื่อน ก็ยังแทรกเรื่องราวของการเติบโตของวัยรุ่นที่ใกล้เข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย การเลือกทางเดินของอนาคต การจัดการกับปัญหาเล็กๆ ของวัยรุ่นที่ต้องอาศัยเวลา ความเข้าใจ และความกล้าของตัวเอง ที่สื่อผ่านตัวละครทุกตัว ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ถือว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นแนวคัมมิ่งเอจอีกหนึ่งเรื่องก็ไม่ผิดนัก

ข้อคิดที่แฝงมาใน อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke

เรื่องราวของการบูลลี่ มีให้เห็นผ่านข่าวลือของ ตัวเอกอย่าง ซาวาโกะ ที่โดนกล่าวหาว่าเป็น ผี หรือผู้ติดต่อกับวิญญาณตั้งแต่เด็ก จนฝังรากลึกจนถึงวัยรุ่น ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีใครคบ และตัวเองก็กลายเป็นคนที่ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์กับใคร นั่นแสดงให้เห็นถึงปัญหานี้ได้อย่างชัดเจน ที่ต้องบอกว่าในชีวิตจริงก็มีเรื่องแบบนี้อยู่ในทุกสังคม หากไม่ได้รับการแก้ไขก็ส่งผลร้ายต่อผู้ที่โดนกระทำอย่างต่อเนื่อง และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ปมในใจจาการโดนบูลลี่ที่แก้ได้ยาก หากไม่มีความกล้าที่จะขจัดปมนั้นออกไป 

ความรัก มิตรภาพ คือสิ่งที่สวยงามเสมอ

สิ่งที่สวยงามบนโลกนี้คงไม่พ้น ความรัก มิตรภาพ ความกล้าที่จะเผชิญปัญหาทุกอย่าง ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ทำตามเสียงของหัวใจตัวเอง คือสิ่งที่อนิเมะ ฝากใจไปถึงเธอ Kimi ni Todoke  นำเสนอผ่านตัวละคร และเนื้อหาทั้งสองภาค ที่ทำได้งดงาม อบอุ่น ไม่ใช่แค่ดูเพลินๆ เท่านั้นแต่ยังให้คนดูได้เห็นพัฒนาการทางความคิด การกระทำของแต่ละตัวละคร จุดเริ่มต้น ระหว่างทาง จุดจบ ของทุกเรื่องราว ล้วนเกี่ยวข้องกัน บทสรุปของแต่ละความคิด ที่ถูกส่งผ่านให้ชมในเรื่องน่าสนใจทุกตอน

อนิเมะFrom Me to You Kimi ni Todoke ฝากใจไปถึงเธอ  

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ห้ามพลาดจริงๆ แม้ว่าจะมีหลายเวอร์ชั่น และผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ความประทับใจยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย ใครที่ยังไม่ชมแนะนำว่าให้เปิดใจชมอนิเมะเรื่องนี้กันสักครั้ง หรือดูให้ครบทุกเวอร์ชั่นรับรองไม่ผิดหวังจริงๆ หรืออยากอ่านต้นฉบับก็แนะนำมังงะเรื่องนี้ ซึ่งในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนนั้น ได้รับรางวัลการ์ตูนแนวโชโจะยอดเยี่ยมในปี 2008 ด้วย 

ขอขอบคุณคลิปจาก ไท-Land

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

แนะนำ Japan Sinks 2020 อนิเมะภัยพิบัติ สะท้อนสังคม เสียดสีความเห็นแก่ตัว

Japan Sinks 2020 ถือว่าเป็นอนิเมะที่น่าชมมากๆ และยังมีเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้จริง และทำให้ประเทศญี่ปุ่นกว่าครึ่งประเทศอาจจะถูกจมลงไปในทะเล นอกจากมีเวอร์ชั่นอนิเมะแล้วยังมีเวอร์ชั่นซีรีย์ด้วย บอกเลยว่าทำได้สนุกทั้งสองเวอร์ชั่น ใครที่ชอบอนิเมะแนวภัยธรรมชาติ การป้องกันตัว การแก้ปัญหา และยังแฝงการเมืองนิดๆ ไม่ควรพลาดชม

เนื้อหาของ Japan Sinks 2020

โครงเรื่องโดยรวมจะเล่าถึงภัยธรรมชาติของญี่ปุ่นเป็นหลัก ซึ่งเรารู้กันดีว่าประเทศนี้เป็นเกาะกลางทะเล ปัญหาที่พบบ่อยๆ คือการเกิดพายุใหญ่ในทุกๆ ปี การเผชิญกับแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์ที่เป็นถึงระดับสึนามิ ซึ่งในเรื่องนี้เล่าถึงภัยพิบัติที่หนักกว่านั้นคือ การเกิดรอยแยกใต้ทะเละ ส่งผลให้เกินแผ่นดินไหวขนาดหนัก คลื่นสึนามิ และการยุบตัวของแผ่นดินจมลงทะเล ซึ่งจุดเริ่มต้นไม่ใช่เกิดจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากมนุษย์ การสร้างความทันสมัยให้กับโลก ความต้องการการที่จะเอาชนะธรรมชาติ ต้องการค้นหาความลับของธรรมชาติบนโลก และมันกลายเป็นจุดเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ที่คาดไม่ถึง

การต่อสู้กับภัยพิบัติที่ยากจะคาดเดา

ในเนื้อหานำเสนอความเป็นญี่ปุ่นแบบสุดๆ นั่นคือความมีสติ ความเป็นระเบียบ ความรอบคอบ และความแม่นยำ ที่ต้องบอกว่าสิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดผ่านอนิเมะได้แบบชัดเจน การจัดการแก้ปัญหาภัยพิบัติที่ทำแบบรอบคอบแม้จะล่าช้าแต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัยจริงๆ คือความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ แต่ก็แฝงกลเกมการเมือง ความเจ้าเล่ห์ อยู่นิดๆ ด้วยเช่นกัน

จุดเด่นของ Japan Sinks2020

• กราฟฟิกที่ต้องบอกว่าอลังการพอสมควร ฉากภัยพิบัติแต่ละครั้งทำได้สมจริงไม่แพ้เวอร์ชั่นซีรีย์
• เนื้อหาที่น่าสนใจจับต้องได้จริง
• การสื่ออารมย์ผ่านตัวละครและบทพูดที่ทำออกมาได้ดีแม้จะเป็นการ์ตูน
• การคุมโทนในแต่ละช่วงทำให้อินกับเนื้อหาได้ง่าย แฝงความอบอุ่น โลกสวย แม้จะดาร์คแบบเกินร้อย ทำให้ไม่จิตตกเกินไปและใส่มาในจังหวะที่พอดี

การเอาตัวรอดในสถานการณ์ยากลำบาก

เนื้อหาเน้นตรงนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควร ในช่วงที่ไม่มีอาหารและน้ำดื่ม แต่ละคนต้องเอาตัวรอด การแย่งชิง การเห็นแก่ตัว การเผยสันดานดิบลึก ก็มีออกมาให้เห็น แต่มันก็ถือเป็นพลอตหลักของการ์ตูนแนวนี้ แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดี ไม่ได้เว่อร์หรือรันทดจนเกินไป

ความแตกต่างของ Japan Sinks2020 เวอร์ชั่นอนิเมะและซีรีย์

หากให้เทียบกันแล้ว เนื้อหาหลักเน้นภัยพิบัตินั้นเหมือนกัน ระดับความรุนแรงและเสียหายเท่ากัน แต่การนำเสนอนั้น ในอนิเมะเน้นตัวละครหลักคือ เด็กสาวมัธยมปลายที่เป็นตัวเล่าเรื่องและมีตัวละครค่อนข้างเยอะ ระดับความดาร์คความดิบของการต่อสู้กับภัยธรรมชาติไม่ค่อยใจดีกับคนดูเท่าไหร่

Japan Sinks2020 เวอร์ชั่นซีรีย์

เน้นเกมการเมืองของผู้มีอำนาจที่ต้องจัดการกับปัญหานี้ การปกปิดความลับของการทดลองบางอย่างที่เป็นชนวนภัยพิบัติ หรือแม้แต่การเจรจาหาทางรอดให้กับประชาชน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมกอบกู้สิ่งที่เหลือจากภัยพิบัติ สองเวอร์ชั่นมีอารมย์ที่แตกต่างกันแม้จะสร้างมาจากมังงะเรื่องเดียวกันก็ตาม เรียกได้ว่าน่าสนใจทั้งสองแบบ

Japan Sinks2020 แม้จะดีแต่ก็มีจุดอ่อน

ต้องบอกไว้เลยว่าคำวิจารณ์ของ Japan Sinks2020 มีทั้งดีและไม่ดี โดยเฉพาะการมี live action ที่ทำได้ดี ทำให้หลายคนเทใจไปทางซีรีย์มากกว่า แม้ว่าเวอร์ชั่นอนิเมะจะทำออกมาก่อนก็ตาม ในส่วนจุดด้อยของอนิเมะคงไม่พ้น ความไม่สมเหตุสมผลในการเล่าเรื่องบางช่วงที่ดูยืดเยื้อและบางครั้งก็รวบรัดจนจับประเด็นไม่ได้ และการใส่ความดาร์คแบบเต็มพิกัดเกินไป และบางมุมมองต้องคิดวิเคราะห์ทำให้ดูแล้วมีความเครียดนิดๆ หากไม่คุ้นชินกับแนวคิดแบบญี่ปุ่น และจุดจบของเรื่องแบบปลายเปิดที่ต่อยอดความคิดของคนดู ก็ทำให้หลายคนไม่ปลื้มจุดนี้พอสมควร และระดับความหน่วงที่ต้องบอกว่าน้ำตาแตกตับพังกันเป็นช่วงๆ เลยทีเดียว

มุมมองที่น่าสนใจ Japan Sinks2020

สิ่งที่จับต้องได้มากที่สุดจากการชม Japan Sinks2020 คือการมีสติที่ต้องพร้อมเผชิญกับปัญหาต่างๆ การมีวินัยการทำตามกฎในภาวะอันตรายเพื่อการอยู่รอดเป็นเรื่องสำคัญมาก และการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่และยังใช้ได้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และที่ถือว่าเป็นสิ่งเล็กๆ ที่บ้านเราน่าจะทำตามก็คือ กระเป๋าเอาตัวรอด หรือกระเป๋าที่คนญี่ปุ่นเขาจะมีกันทุกบ้าน ภายในจะมีสิ่งจำเป็นต่างๆ ในการใช้ชีวิตยามเจอภัยพิบัติอย่างน้อยก็ 3- 7 วันเพื่อรอความช่วยเหลือ

บทสรุป

แม้ว่าเนื้อหา Japan Sinks2020 เล่าถึงการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติที่ดูไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่โลกทุกวันนี้สภาวะแวดล้อมเปลี่ยนแปลงจนยากจะคาดเดา สิ่งที่เห็นในอนิเมะอาจเกิดขึ้นได้จริงๆ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะอีกสักกี่สิบปี การนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ไม่ใช่แค่ให้ดูความสนุก หรือชื่นชมลายเส้นสวยๆ ที่สื่อออกมา แต่ยังแฝงแง่คิดหลายอย่าง แม้จะมีความชาตินิยมแบบญี่ปุ่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความสนุกแม้แต่น้อย อยากให้เปิดใจกับอนิเมะแนวนี้ดูบ้าง

ขอขอบคุณคลิปจาก The Moof

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

รีวิวอนิเมะ Sousou no Frieren คำอธิษฐานในวันที่จากลา ดูแล้วน้ำตาแตก

Sousou no Frieren อนิเมะที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้ กับเรื่องราวที่ร้อยเรียงความสัมพันธ์ของตัวละครและการผจญภัยร่วมกัน การต่อสู้ การผจญภัย มิตรภาพสุดประทับใจที่ทำให้ผู้ชมหลายคนต้องเสียน้ำตา และลุ้นไปกับภารกิจของพวกเขา หากบอกว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นแนว Coming of Age ก็คงจะบอกได้ไม่เต็มปากนักเพราะเนื้อหามีการสลับไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของเรื่องนั้นย้อนไปยัง 26 ปีที่แล้วกับการผจญภัยของ Frieren เอลฟ์ผู้กล้าที่พิชิตจอมมารได้สำเร็จพร้อมเหล่าผู้กล้า ฮิมเมล ไฮเตอร์ ไอเซ็น แต่เมื่อเวลาหมุนเปลี่ยนไป เหล่าผู้กล้าก็อายุมากขึ้นเพียงแต่ Frieren  ยังคงเหมือนเดิมเพราะความเป็นนิรันดร์ ทำให้ฟีเรนต้องมีผู้ร่วมภารกิจคนใหม่ และการต่อสู้ครั้งใหม่ที่ท้าทาย

Sousou no Frierenอนิเมะที่ส่งต่อความคิดในการใช้ชีวิต

แม้ว่าเนื้อหาหลักจะเน้นการต่อสู้กับปิศาจเป็นหลัก แต่ในภารกิจแต่ละครั้งที่ฟีเรนและเหล่าผู้กล้าคนใหม่ที่ร่วมเดินทางนั้น ก็แฝงไปด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิต ความสัมพันธ์ การแก้ปัญหาที่ผ่านเข้ามา รวมทั้งการระลึกถึงอดีตที่ผ่านมาของฟีเรน ที่ส่งต่อแนวทางในอนาคต แง่คิดความน่าสนใจมาแฝงมากพร้อมกับความสนุกของเรื่องทำให้ดูได้ไม่เบื่อ นอกจากนี้ยังเน้นถึงความสำคัญของมิตรภาพ ดูจะเป็นจุดหลักของเรื่องที่ต้องบอกว่าทำได้กลมกล่อมสุดๆ การปูพื้นหลังของตัวละครแต่ละตัว ทำให้คนดูผูกพันธ์ได้ไม่ยาก เมื่อเข้าใจความสัมพันธ์ก็ยิ่งสะท้อนแนวคิดของการทำบทที่อยากจะสื่อในเรื่องนี้ ออกมา
ผ่านการเดินทางของตัวละคร หลายๆ มุมทำให้ย้อนคิดถึงความสัมพันธ์รอบตัวเราเองได้ไม่ยาก

ความน่าสนใจของ Sousou no Frieren

• ฉากต่อสู้ที่ทำได้สวย ตื่นตาทำให้ท่าทางการต่อสู้ในจินตนาการ
• ตัวละครที่มีภูมิหลังและส่งต่อความรู้สึกได้เต็มที่ ทำให้เกิดความประทับใจ
• การเล่าเรื่องที่ไม่ยืดยื้อมากนัก แม้จะสลับระหว่างอดีตและปัจจุบัน
• พลอตแฟนตาซีที่ไม่ซ้ำแบบเดิมๆ มีความน่าสนใจกว่าเรื่องในแนวเดียวกัน

ดราม่าน้ำตาแตกที่ไม่คิดว่าอนิเมะจะมี

Sousou no Frierenคำอธิษฐานในวันที่จากลา ไม่ใช่แค่มอบความประทับใจ ความซาบซึ่งกับมิตรภาพเท่านั้น แต่ยังมีบางช่วงที่ชวนให้ปวดตับกับความดราม่าที่ใส่เข้ามา เพื่อแก้เลี่ยนกับความอบอุ่นกินใจ แต่ก็ถือว่าทำได้กลมกล่อมหากจะฟิลกู้ดทุกตอนก็ดูจะน่าเบื่อไปนิด หรือแฝงความคิดความอ่านหนักๆ ก็ชวนเบื่อเหมือนกัน

คำอธิษฐานในวันที่จากลา ความหมายที่ลึกซึ้งกินใจ

การเดินทางมีจุดเริ่มต้นและจุดจบเสมอ เฉกเช่นเดียวกันกับSousou no Frierenที่ให้ความหมายในวันที่จากลาได้อย่างอบอุ่น มิตรภาพของตัวละครไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนมีค่าเสมอ แม้ว่าชีวิตของฟีเรนจะเป็นอมตะ แต่คนรอบตัวก็ต่างมีอายุมากขึ้น หรือตายจากไป แต่ทุกความรู้สึกกลับถูกฝังไว้ในใจของเธอ บทสรุปที่ดูจะเหงาๆ แต่นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง บอกเลยว่าอนิเมะเรื่องนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด หรือจากที่เรารีวิวแน่นอน อยากให้ชมกันด้วยตัวเอง ลองหาความหมายของมิตรภาพจากเรื่องนี้กันดู หรือใครที่ชอบการต่อสู้เด็ดๆ รับรองไม่ผิดหวังขนาดซีนต่อสู้ยังมีความซึ้งความฮาปนมาด้วย

สรุปSousou no Frierenคำอธิษฐานในวันที่จากลา

เป็นอนิเมะที่สมกับการเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่เริ่มฉายเมื่อเดือนตุลาคม 2023 และยังเกาะอันดับท๊อปได้อย่างต่อเนื่องข้ามปี เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ไม่ใช่แค่เทคนิคการสร้างที่เน้นความสวย ความอลังการในฉากต่อสู้ แต่ยังให้บรรยากาศที่สนุก อบอุ่น ดูแล้วมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา แนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด กับอนิเมะดีๆ สนุกๆ และแฝงด้วยเรื่องราวน่าสนใจ รับชมพากษ์ไทยได้สบายๆ นอกจากนี้เพลงประกอบก็ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้เรื่อง อื่นๆ เรื่องนี้มีมังงะด้วยใครชอบแบบไหนเลือกอ่านเลือกชมกันได้ตามสบาย แต่ขอแอบบอกใบ้นิดๆ อนิเมะทำได้ตรงตามมังงะเป๊ะๆ ถอดจินตนาการคนอ่านได้แบบไม่ผิดเพื้ยน

ขอขอบคุณคลิปจาก อันนี้โดนมะ

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

Gintama ตำนานซามูไรในยุคเอเลี่ยน

รีวิว Mob Psycho 100 อนิเมะแนวแอ็คชั่น ที่คุณไม่ควรพลาด

ซีรีย์ Shonen Jump ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล เรื่องราวสุดป่วนของ ซามูไร บ้านนอก

ถ้าพูดถึง Gintama ภาพที่หลายคนนึกถึงเป็นอย่างแรกก็คงเป็น คุณกิน แต่ชื่อเต็มคือ ซากาตะ กินโทกิ ซามูไรหัวขาวร่างสูงโปร่งที่มาพร้อมเอกลักษณ์เป็นดาบไม้คาตานะคู่ใจอาชีพ ซามูไร รับจ้าง ที่นิสัยสุดกวนบาทา ไม่มีลิมิต บทจะดีก็ดีแตก บทจะร้ายก็บ้าเลือด

สำหรับเรื่องราวของ การ์ตูน เรื่องนี้จะถูกเซตในช่วงปลายยุคเอโดะแต่หลังจากการมาของเอเลี่ยน มนุษย์ต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า “ชาวสวรรค์” พวกมันค่อยๆ เปลี่ยนจากเมืองเอโดะที่แสนเรียบง่ายให้กลายเป็นเมืองศิวิไลซ์ในระยะเวลาไม่กี่ปี เนื่องด้วยการกวาดล้างเหล่า ซามูไร หลายปีต่อมา กินโทกิ อดีตนักรบที่วางมือแล้วได้ใช้ชีวิตอย่างสงบที่ร้านสารพัดรับจ้างพร้อมกับ ชิมูระ ชินปาจิ ซามูไร ฝึกหัด และ คางุระ สาวหมวยพลังช้างสาร

แนะนำตัวละครต่างๆ ภายในเรื่องGintama

ซากาตะ กินโทกิ อดีตมือดาบพิฆาตชาวสวรรค์แต่ปัจจุบันผันตัวมา Slow Life ในร้านสารพัดที่แสนจะ อบอุ่น และ เรียบง่าย และรับงานจ้างวานทุกชนิดตั้งแต่งานเบาๆ ไปจนถึงงานระดับสูงอย่างปราบชาวสวรรค์ มีอาวุธประจำตัวเป็นดาบไม้และความกวนเท้าในระดับหนึ่งตึงๆ

ชิมูระ ชินปาจิ เด็กหนุ่ม ซามูไร จากโรงฝึกดาบที่ต้องการทำงานหาเงินเอาไปบูรณะโรงฝึกดาบ แต่ฝีมือดาบไม่เอาไหน บวกกับนิสัยที่เหมือนตัวชงมุกก็ถือว่าทำได้ดีและบางครั้งก็เป็นตัวประกอบที่ดันโดดเด่นกว่าตัวเอกเสียอีก แถมตัวเขามีพี่สาวคนหนึ่งชื่อ ชิมูระ ทาเอะ แต่ก็เป็นพี่สาวใจดีที่แอบจิตนิดๆ อยู่เหมือนกัน แต่เขาก็รักและเทิดทูนพี่สาวมาก

คางุระ หมวยสาวชุดแดงที่มาพร้อมพลังช้างสารแต่จริงๆ เธอไม่ใช่มนุษย์หรอกนอกจากความสามารถทางกายภาพที่มาพร้อมทักษะการ ต่อสู้ ที่น่ากลัว บอกเลยว่าอย่าทำให้เธอโกรธไม่งั้นบ้านแตก โดยรวมแล้วเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่ก็มีมุมน่ารักๆ เหมือนกันและยังเป็นพวกติด meme ประจำ อนิเมะ ที่แจกมุกแทบทุกช็อตจนทางคนดูหัวเราะก๊าก

เพลง OP ประกอบที่เพราะกินใจจนได้ยินติดหูตามร้านคาราโอเกะ

ถ้าพูดถึงเพลงประกอบที่ฮิตจนติดชาร์จ ก็ต้องเพลง Pray (คำอธิษฐาน) ของคุณ Tomoko kayase ตัวแม่แห่งวงโมเดินท์ Tommy heavenly6 ที่มีเนื้อเรื่องอันไพเราะและเนื้อหาที่ซึ่งกินใจเกี่ยวกับ การปลดเปลื้องอดีตและหวนคืนสู่ปัจจุบันเป็นอิสระจากกรงแห่งความเจ็บปวดที่ขังตัวเองไว้ พร้อมฟาดฟันมันออกไปด้วยดาบคาตานะ บอกเลยต้องลองฟังดู

จุดเด่นในการดำเนินเรื่องที่ไม่เหมือนใครของGintama

การ์ตูน แก๊กที่มีหลากหลายบทบาททั้ง โหดมันส์ฮา เศร้าเคล้าน้ำตา บีบหัวใจ ลื่นไหลไปกับอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ พร้อมล้อเลียนการ์ตูนรุ่นพี่แบบไม่เกรงค่าลิขสิทธิ์ยิ่งกว่าภาพยนตร์ หอแต๋วแตกของ พี่พจน์ อานนท์   บางทีเป็นอนิเมะตลกเกินไป

ซามูไร แห่งตำนานฉายา”ปีศาจเงิน”ที่แม้แต่พระเจ้ายังหวาดกลัว

ในช่วงสงครามระหว่างมนุษย์และชาวสวรรค์ที่กำลังปะทุเดือดได้มีกลุ่มซามูไรปริศนาเข้าต่อกรกับชาวสวรรค์อย่างห้าวหาญและสังหารพวกมันจนตายไปเป็นกองทัพกลายเป็นตำนานปีศาจสีเงิน ที่ชาวสวรรค์เล่าลือกันปากต่อปาก

อุดมการณ์เราซื้อไม่ได้แต่จ้างได้นะครับ โดย คุณกินโทกิ

ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนปากท้องก็จะต้องมาก่อน วิ่งถ้าจะให้ไปสู้แต่ถ้าท้องหิวก็สู้ไม่ไหวหรอกดังนั้น เรื่องเงินคือเรื่องใหญ่ ร้านสารพัดรับจ้างเรา รับทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะให้ทำอะไร เราทำให้หมด เพราะว่าการ์ตูนเรื่องนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้

บทจะบู๊ก็บู๊เกินเหตุ บทจะหลุดก็เหมือน การ์ตูน ขายหัวเราะมหาสนุก

เส้นเรื่องของการ์ตูนยอมรับว่าอ.เซราจิ เองก็อินดี้เหมือนกัน เหมือนจะให้ตัวละครไป Act นี้ก็เปลี่ยนเรื่องจากฮาๆ กลายเป็นบู๊ล้างผลาญเรื่องสาดแบบดื้อๆ แต่พอบทเป็นการ์ตูนแก๊งนี่ บางทีก็ยิงมุกกันจนฮาปลิ้น ผ่อนคลายดี ทำเอาลืมความเดือดของตอนที่แล้วไปหมด พอตอนบทดราม่ามีน้ำตาไหลที่ก็ตราตรึงใจเหมือนกัน

แซวแรง แซวแหลกแบบไม่กลัวสำนักงานเขียนการ์ตูนปิด

มีหลายตอนที่Gintamaนั้นชอบไปหยิบไอเดียของการ์ตูนรุ่นพี่หลายๆ เรื่องอย่าง Dragon ball , Naruto , One piece และการ์ตูนในเครือข่าย Shonen Jump รวมไปถึงวงการเกมและการเมือง ดาราญี่ปุ่นเอาเล่นกันแบบไม่กลัวสำนักการ์ตูนถูกปิด บางครั้งก็กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ถ้าGintameเอาการ์ตูนคุณไปล้อแสดงว่าการ์ตูนคุณประสบความสำเร็จมากๆ แล้ว

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น….อย่าไปโผล่ใน อนิเมะ เรื่องนี้เป็นอันขาด…

จุดเด่นอีกอย่างที่เรียกว่าน่าสนใจคือ การนำเอาตัวละครรับเชิญจากเรื่องอื่นๆ มาปรากฏในGintameซึ่งบ้างตอนในแต่ละSS ก็เกือบจะเปลี่ยนทั้งเรื่องให้กลายเป็นการ์ตูนอีกเรื่องไปเลย ทำเอาหลายฉากคนดูก็แอบสับสนเหมือนกันว่า เฮ้ยผิดเรื่องแล้วแถมตัวละครรับเชิญที่มาโผล่นี่เหมือน ดารามารายการสาระแนโชว์ เจอแกงแล้วแกงอีก

Gintamaเป็นการ์ตูนเก่าที่ยังใหม่ตลอดเวลา

แม้จะผ่านกาลเวลามาเกือบ 15 ปีแต่เชื่อไหมว่าถ้ากลับไปดูคุณก็ยังสนุกไม่เปลี่ยนแถมจะรู้เรื่องมากขึ้นอีกด้วยเพราะตอนที่เรื่องนี้ออกแรก หลายๆ คนที่ตามอาจจะอายุแค่7-8 ขวบกันอยู่เลย ซึ่งช่วงที่ Boom ที่สุดก็ต้องตอนที่ออกเป็น นิตยาสาร C-kid แต่เชื่อไหมว่า ถ้ากลับไปดูใหม่นี่บอกเลยว่าจากความสนุกจะเป็นความคิดถึง อะไรที่เป็นเหมือนไวรัลในสมัยก่อนและกระแสวัฒนธรรมในยุคนั้น มันเหมือนย้อนวันวานคนยุคใหม่ดูได้ คนยุคเก่าดูดี ถือว่าเป็นอนิเมะอบอุ่นหัวใจอีกเรื่องก็ว่าได้

ขอขอบคุณคลิปจาก Notty Story

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

รีวิว Mob Psycho 100 อนิเมะแนวแอ็คชั่น ที่คุณไม่ควรพลาด

แนะนำมังงะเก่าน่าเก็บ Special A วัยมันส์คนพันธุ์ A

Mob Psycho 100 เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการ พลังจิต

นี่คือการ รีวิวอนิเมะ เรื่องราวของMob Psycho 100ที่ถูกสร้างจากปลายปากกาของ อาจารย์ ONE ผู้สร้างตำนานโล้นซ่าห์หมัดเดียวตาย อย่าง One-Punch-Man อนิเมะแอ็คชั่น สุดใหม่ จากพลังกายเปลี่ยนไปเป็น อนิเมะธรมชาติ ที่เหนือธรรมชาติเพราะจะเน้นทางปราบปีศาจและสิ่งลี้ลับ สงครามพลังจิตที่มีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพัน

Mob Psycho 100เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการ พลังจิต

นี่คือการ รีวิวอนิเมะ เรื่องราวของMob Psycho 100ที่ถูกสร้างจากปลายปากกาของ อาจารย์ ONE ผู้สร้างตำนานโล้นซ่าห์หมัดเดียวตาย อย่าง One-Punch-Man อนิเมะแอ็คชั่น สุดใหม่ จากพลังกายเปลี่ยนไปเป็น อนิเมะธรมชาติ ที่เหนือธรรมชาติเพราะจะเน้นทางปราบปีศาจและสิ่งลี้ลับ สงครามพลังจิตที่มีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพัน

แนะนำตัวละครต่างๆ ภายในเรื่อง ม็อบ100

คาเกยามะ ชิเงะโอะ ตัวเอกเของเรื่องเด็กหนุ่มจืดหน้าไร้อารมณ์ชื่อเล่นของเขาจริงๆ คือ ม็อบ ที่แปลว่าไม้ถูพื้น พลังจิต ถือได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของเรื่องตามสไตล์ มี Six Sense ทำให้สัมผัสวิญญาณและสิ่งลี้ลับได้ นอกจากเป็นนักเรียนและผู้ใช้พลังจิตแล้ว ปัจจุบันก็ยังทำทำงานให้กับ เรย์เก็น อาราตะ ในฐานะที่ปรึกษาและอาชีพไล่ผี

เรย์เก็น อาราตะ ประธานแห่งองค์กรปราบผีที่ ไม่มีพลังพิเศษอะไรเลยแต่ได้หน้าจากของผลงานของคาเกยามะ ชิเงะโอะ ทำให้ตัวเขามักจะได้มีการไหว้วานให้คาเกยามะ ไปปราบผีแทนเป็นประจำด้วยค่าแรงที่ต่ำมาก แต่ คาเกะยามะ ก็เต็ใจช่วยเพราะนับถืออาราตะ เป็นเหมือนอาจารย์

เอคุโบะ วิญญาณร้ายที่เป้าหมายสไตล์ตัวร้ายทั่วไปนั้นการได้ทุกอย่าง มาครอบครองเฉกเช่นพระเจ้า แต่หลังจากได้รับความพ่ายแพ้ที่ยิ่งใหญ่จาก ม็อบ ดูเหมือนเขาจะแอบตามม็อบกลับมาเพื่อจุดประสงค์ลับบางอย่างรวมไปถึงการหาประโยชน์จากม็อบ

คาเกะยามะ ริสสึ น้องชายแท้ๆ ของชิเงโอะเป็นคนหัวดีหน้าตารูปงามสาวรักสาวหลง และผลการเรียนที่สูง ซึ่งแตกต่างกับพี่ชาย เป็นคนแรก ๆ ที่รู้ว่าพี่ชายตัวเองเป็นคนเก่ง แต่ภายในใจลึกๆ ก็ยังรู้สึกแอบอิจฉาพี่ชายที่ตัวเองใช้ พลังจิต ได้ ด้อยกว่าพี่ของตนเอง

เรื่องราว อนิเมะเข้มข้นของMob Psycho 100

เรื่องราว ของ ชิเงะโอะ คาเกยามะ หนุ่ม พลังจิต ที่มีพลังราวกับเทพจุติ แต่กลับมีอารมณ์อันอ่อนไหวเพราะกายจริงเป็นแค่เด็กวัยรุ่น ผนวกกับพลังที่มหาศาลเกินไป ทำให้เขาต้องปกปิดตัวเองและเลือกใช้พลังให้น้อยที่สุดเพื่อช่วยเหลือ โรงเรียน ม.ต้น ชิโอะ ด้วยการใช้ พลังจิต ประกอบ อาชีพไล่ผีอย่างลับๆ

ความชั่วร้ายที่แฝงตัวตามสไตล์ อนิเมะต่อสู้

แม้ว่าชีวิต ชิเงะโอะ คาเกยามะ จะพยายามใช้ชีวิตให้ไม่โดดเด่น เพื่อปกปิดความลับเรื่องพลังจิต แต่ว่า สุดท้ายแล้วต้องใช้พลังเพื่อผดุงคุณธรรมอยู่ดี แถมยังองค์กรชั่วร้ายที่ใช้พลังจิตในทางผิดๆ และมีเป้าหมายคือการรวมรวบยอดคนพลังจิต เพื่อใช้มันยึดครองโลก และนี่คือเรื่องราวการผจญภัยอันแสนน่าตื่นเต้นและเร้าใจจึงได้เริ่มขึ้น

ความน่าประทับใจของMob Psycho 100

ม็อบไซโค100 แม้ว่าจะเป็นแนวพระเอกเทพและชีวิตประจำวันในโรงเรียนเหมือน การ์ตูน โชเน็นทั่วไป แต่ก็มีเนื้อหาที่น่าติดตามไม่แพ้เรื่องรุ่นพี่อย่าง One-Punch-Man แต่จะเปลี่ยนจากบทที่เก่งเทพแบบหมัดเดียวจอด มาเป็นแค่ปกปิดพลังไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นจุดเด่น ซึ่งถือว่าเป็นมารฐานที่มาแรงตามสไตล์ มังงะยุคใหม่

ความเหมือนที่ไม่เหมือนของพี่น้องที่แตกต่างกัน

สำหรับ อนิเมะชั่นน่าติดตามอย่างMob Psycho 100  เรื่องนี้ถือว่า แปลกมากที่ยกให้ ตัวเอกมีตัวละครที่เป็นเหมือน มวยรองบ่อน ให้มาเป็นน้องชายตัวเองอย่าง ริสสุ คาเกะยามะ ที่เป็นหนุ่มหล่อสาวHOT ผลการเรียนดีกว่า ซึ่งเทียบกับตัวเอกที่เป็นพวกจืดสนิทแต่พลังเทพ ซึ่งทำให้นึกถึงมุมมองอย่างการที่ เรามักจะอยากได้ในสิ่งที่ตัวเองไม่มี

โหมด100% โหมดจริงจังเวอร์ชั่น พลังจิต

จุดเด่นของ อาจารย์ ONE ในการวางโครงเรื่องการ์ตูน นั้นคือช่วงที่ตัวเองได้มีการใช้พลังที่แท้จริงในการกำราบศัตรูดังนั้นไม่ว่าฝ่ายนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าของMob Psycho 100ก็เป็นตัวประกอบภายในไม่กี่หน้ากระดาษ แต่จะแตกต่างกับ ไซตามะ ตรงที่ค่าพลังเกจซึ่งถ้า ค่าพลัง ม็อบถึง 100% เมื่อไรนั้นคือโหมดเอาจริง

เรื่องราวของผู้มีพลังจิตที่ไม่อยากมีพลังจิต

หลายคนอาจจะมองว่า คาเกยามะ ชิเงะโอะ เป็นพระเอกที่เก่งและใช้พลังได้เวอร์วังอลังการ แต่นั้นยิ่งทำให้ตัวเขารู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเก่งยิ่งถูกหมายปองเอาชีวิต ซึ่งถ้าเลือกได้เขาเองก็ไม่อยากมีพลังแบบนี้ ดังนั้นถ้าพลังเด่นแต่ไม่อยากดัง เขาจึงโยนผลงานทั้งหมดให้เป็นหน้าที่ของเรย์เก็น อาราตะ ให้หัวโขนออกรับหน้าแทน

ตัวร้ายที่เวอร์แต่พลังตัวเอกเวอร์กว่า…?

สูตรสำเร็จของอนิเมะแอ็คชั่น  เรื่องนี้คือตัวร้ายที่ยิ่งทวีความเก่งกาจไปเรื่อยๆ จากวิญญาณร้ายข้างถนน นักเลงหัวไม้และเด็กโข่งหลังห้องค่อยๆ ไต่ระดับไปจนผู้ใช้พลังจิตด้วยกัน ร่วมไปถึงคู่แข่ง และมันจะค่อยๆ ให้ตัวเอกดูเหมือนเก่งขึ้นเรื่อย แต่จริงๆ ตัวเองไปถึงจุดนั้นนานแล้ว แต่ไม่อยากเปิดเผย การดำเนินเรื่องก็เหมือนเฉลยตัวตน

การดำเนินเรื่องที่เน้นตัวละครสมทบมากกว่าตัวละครเอก

ถ้าหากเราดูเนื้อเรื่องของ ม็อบไซโค100 ไปเรื่อยๆ จะรู้ได้เลยว่ามีบางฉากจะเน้นการเล่าเรื่องของตัวละครสมทบมากกว่าตัวละครเองอย่าง คาเกยามะ ชิเงะโอะ สะอีกแถมบางตัวร้ายมีการปูบทมาอย่างดีแต่ถูกตัดจบในไม่กี่วินาทีหลังจากตัวเอกโผ่ลมาก ดังนั้นความสนุกของเรื่องนี้จะเน้นไปทาง คู่แข่ง และการเล่าอดีตเฉลยปมตัวร้ายมากว่า

สรุปบทความ Mob Psycho 100 คุ้มค่าแก่การดูไหม..?

สำหรับ ม็อบไซโค100 จะให้อารมณ์แนว อนิเมะมิตรภาพ ที่มีฉากแอ็คช้่น แต่ก็มีมุกตลกคลายเครียดผสมบางฉากเนื้อที่ลุ้นระทุกตามสไตล์ การ์ตูน บู๊ยุคใหม่ ดังนั้นถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ชอบ อนิเมะแนวเนื้อหาหนักๆ แต่เน้นดูเบาสมอง เรื่องนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาดูได้ทางช่องทางออนไลน์เลย

ขอขอบคุณคลิปจาก คอเป็นหนัง

อ่านบทความดพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

รีวิว Eighty Six มังงะแนวไซไฟที่ตีแผ่เรื่องชนชั้นของโลกใบนี้

Eighty Six เป็นมังงะอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเป็นเรื่องที่โด่งดังเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมาแรงในปี 2566 อีกด้วย เพราะว่าถูกนำไปพัฒนาต่อในรูปแบบของอนิเมะ ใครที่เป็นสายอนิเมะแล้วคาใจในเรื่องราวก็เลยตามหาอยากจะซื้อมังงะเรื่องนี้มาอ่าน โดยครั้งแรกที่เราเห็นมังงะเรื่องนี้ก็ยังเกิดความลังเลใจอยู่ เพราะชื่อเรื่องก็ต่างจากเรื่องอื่นๆ แล้ว แต่พอลองอ่านเรื่องย่อก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเรื่องที่สายอนิเมะที่ชอบการต่อสู้แล้วอยากตื่นตาตื่นใจกับเหตุการณ์สุดลุ้นระทึกไม่ควรพลาดเลย

เรื่องย่อของ Eighty Six มังงะชื่อดัง

เรื่องEighty Sixเป็นหนึ่งในมังงะน่าอ่าน เรื่องนี้เล่าถึงสงครามของประเทศซันแมกโนเลีย ซึ่งประเทศนี้จะมีการแบ่งเขตการปกครองออกเป็นทั้งหมด 85 เขต แต่ปัจจุบันเขตต่างๆ เหล่านั้นได้ถูกลีเจี้ยน หุ่นยนต์จักรกลรบรุกราน จนทำให้ประชาชนที่ต้องการต่อสู้กับการถูกรุนรานในครั้งนี้สร้างอาวุธขึ้นมาตอบโต้ และสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามเหล่านั้นได้ แต่ประชาชนไม่เคยรู้เลยว่า คนที่ต่อสู้แทนพวกเขาในมังงะใหม่คือกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่าเป็น เอทตี้ซิกซ์ ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตการปกครองที่ 86 แต่ใช้ชีวิตเสมือนตัวเองไร้ตัวตน พวกเขาแต่เดิมเป็นชาวซันแมกโนเลีย แต่พอเกิดสงครามจากการที่มีเชื้อสายของชาวอัลบา ผู้ที่มีดวงตาสีน้ำเงินก็ถูกส่งไปอยู่ค่ายกักกัน อีกทั้งยังถูกบังคับให้ต้องต่อสู้กับพวกลีเจี้ยนอีกด้วย เนื้อหาเรื่องนี้จะเน้นที่การบรรยายให้คุณได้เห็นถึงการแบ่งชนชั้น การต่อสู้ และการเหยียดเชื้อชาติ ใครที่อยากจะอ่านเรื่องราวที่สอดแทรกความจริงของโลกใบนี้เอาไว้ต้องมาติดตามในมังงะเรื่องนี้เลย

สิ่งที่ทำให้Eighty Sixเป็นมังงะที่น่าซื้อมาอ่านเป็นอย่างมาก?

อยากรู้ไหมว่าทำไมEighty Sixถึงเป็นมังงะที่มีคนสปอยมังงะออกมาจำนวนมาก สาเหตุหนึ่งในนั้นคือการที่เรื่องนี้เป็นมังงะสนุกๆ ที่หลายคนอยากแนะนำต่อ จึงมีคนพูดถึงเรื่องEighty Sixค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมาย หากใครอยากรู้ก็ลองมาติดตามได้เลย รับรองว่าจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นว่าจะซื้อมังงะเรื่องนี้ดีหรือไม่?

• เรื่องที่ชื่อไม่เหมือนใคร

สำหรับมังงะเรื่องนี้ชื่อเรื่องจะไม่เหมือนใคร เพราะเป็นการหยิบเอาเขตการปกครองที่ 86 มาตั้งเป็นชื่อเรื่อง ทำให้คนที่ไม่เคยอ่านสปอยหรืออ่านเรื่องย่อมาก่อน อาจไม่เข้าใจว่า 86 คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงได้กลายเป็นชื่อเรื่องของมังงะได้ แต่การที่เลือกตั้งชื่อแบบนี้ก็มีข้อดี เพราะเป็นชื่อที่จดจำได้ง่าย ใครเห็นชื่อก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเรื่องแนวไหน เพราะถ้าเป็นมังงะเรื่องอื่นอาจตั้งชื่อคล้ายๆ กัน แต่เรื่องนี้มั่นใจได้เลยว่าไม่ซ้ำกับเรื่องไหนแน่นอน

• ตัวละครในเรื่องมีปมของตัวเอง

เรื่อง 86 ตัวละครทุกตัวจะมีปมเป็นของตัวเอง ซึ่งปมของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างตัวหลักของเรื่องอย่างเลน่าก็เป็นตัวละครที่แม้จะเกิดในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ยังเป็นคนที่มุ่งมั่นและอยากช่วยเหลือกลุ่มคนที่ถูกละเลยอย่าง 86 จริงๆ ส่วนอีกตัวละครที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ชิน ซึ่งเขาเป็นเด็กที่เก่งและมีความเยือกเย็นในตัว หากใครติดตามเรื่องนี้อยู่จะพบว่าแต่ละตัวละครมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างมาก

สรุป

จากที่เราได้แนะนำมังงะเรื่องEighty Sixไปเชื่อว่าคุณคงเห็นความน่าอ่านของเรื่องนี้กันแล้วอย่างแน่นอน เนื้อเรื่องจะแตกต่างจากมังงะเรื่องอื่นๆ เพราะเป็นแนวแอ็กชันไซไฟ เล่าถึงเหตุการณ์สงครามที่เกิดขึ้น โดยในปัจจุบันนอกจากจะหาอ่านเป็นมังงะแล้วก็ยังมีแบบไลฟ์โนเวลให้ได้ติดตาม รวมถึงมีการนำไปพัฒนาต่อเป็นอนิเมะอีกด้วย ใครที่ยังลังเลว่าจะซื้อมังงะเรื่องนี้มาเก็บไว้อ่านดีไหม ตอบได้เลยว่าควรค่าแก่การซื้อมาก แต่ถ้าอยากหามังงะเรื่องอื่นอ่านก็เข้ามาติดตามผ่านเว็บไซต์ของเราได้ เรามีมังงะน่าสนใจรวมเอาไว้เพียบเลย

ขอขอบคุณคลิปจาก FreeTimeReview

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ anime-khotdee.com

แนะนำมังงะเก่าน่าเก็บ Special A วัยมันส์คนพันธุ์ A

แนะนำ นารูโตะ มังงะในตำนานที่คอมังงะทุกคนไม่ควรพลาด