เดือน: กรกฎาคม 2021

หลังจากผลงานมาสเตอร์พีซชื่อดังระดับโลกจากหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูนโชเน็งยอดฮิตแห่งต้นยุค2000 อย่างSoul Eater อาจารย์โอคุโบะ อัตสึชิก็กลับมาอีกครั้งกับผลงานเรื่อง Enen no Shouboutai หรือ Fire Force ที่ผสมผสานความไซไฟและดาร์กแฟนตาซีไว้ในการผจญภัยของตัวละครได้อย่างลงตัว โดยการหยิบเอาอาชีพนักดับเพลิงที่เขาคิดว่าเป็นอาชีพที่ใกล้เคียงกับคำว่าฮีโร่ในชีวิตจริงมากที่สุดมาเป็นแรงบันดาลใจและจุดขายของเรื่อง สำหรับ Enen no Shouboutai ฉบับมังงะได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสารโชเน็งรายสัปดาห์ของสำนักพิมพ์โคดันชะ ก่อนจะได้รับการรวมเล่มและกวาดยอดขายถล่มทลายรวมกว่า 60ล้านเล่มนับตั้งแต่วางขายเล่มแรกเมื่อปี2016 เป็นต้นมา และได้รับการดัดแปลงให้เป็นรูปแบบ อนิเมะ โทรทัศน์โดยDavid Production และเริ่มออกอากาศซีซั่นแรกในเดือนกรกฎาคม ปี2019 โดยปัจจุบันมีการออกอากาศมาแล้ว 2 ซีซั่น รวมทั้งสิ้นจำนวน 48 ตอน สำหรับในประเทศไทย อนิเมะ เรื่องนี้ได้รับลิขสิทธิ์เผยแพร่โดยบริษัท Aniplus Asia สามารถรับชมได้ทั้งในแอพพลิเคชั่นAIS PLAY และ Netflix Thailand ภายใต้ชื่อไทยอย่างเป็นทางการคือหน่วยผจญคนไฟลุก

เนื้อเรื่องย่อของอนิเมะเรื่อง Enen no Shouboutai

อนิเมะ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอกอย่าง ชินระ คุซาคาเบะ เด็กหนุ่มผู้ถูกมองว่าเป็นคนฆ่าแม่และน้องชายของตัวเองในเหตุการณ์เพลิงไหม้เมื่อ 12 ปีก่อน ชินระได้รับฉายาว่ารอยเท้าปีศาจอันได้มาจากความสามารถในการควบไฟที่ฝ่าเท้าได้ตามความต้องการซึ่งเป็นจุดเด่นของผู้มีพลังพิเศษรุ่นที่สาม ชินระได้เข้าร่วมกับหน่วยดับเพลิงพิเศษที่8และปฏิบัติภารกิจร่วมกับผู้มีพลังวิเศษคนอื่น ๆ ในการควบคุมเหตุการณ์อัคคีภัยที่มีต้นเหตุจากคนไฟลุก พร้อมกับหน้าที่พิเศษในการตรวจสอบการทำงานของหน่วยดับเพลิงพิเศษที่1ถึง7 จนไปเจอกับเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมเมื่อ12ปีก่อนทั้งยังได้รับรู้อีกว่าโช น้องชายที่คิดว่าตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่ 

เบื้องหลังเหตุการณ์ปริศนาครั้งนั้นจะเป็นอะไร เราขอเชิญทุกคนร่วมติดตามและเอาใจช่วยชินระกันได้ใน อนิเมะ เรื่อง Enen no Shouboutai

รีวิวอนิเมะ Enen no Shouboutaiหลังจากที่ได้ดู

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อนิเมะ เรื่องนี้มีลายเซ็นของอาจารย์โอคุโบะชัดเจนมากไม่ว่าจะเป็นด้านภาพลายเส้นหรือตัวเนื้อเรื่องหลักเองก็มีความน่าสนใจชวนขบคิดตามถึงปมที่อยู่เบื้องหลังและยังได้ตื่นตาตื่นใจกับความไซไฟแฟนตาซีของฉากการต่อสู้ด้วยพลังพิเศษรวมถึงมุกตลกตามแบบฉบับของอาจารย์โอคุโบะ ทำให้ Enen no Shouboutai เป็น อนิเมะ ที่น่าติดตามอย่างมากเรื่องหนึ่ง และยิ่งอาจารย์โอคุบะได้ประกาศในเดือนพฤษภาคมปี2020ว่า Enen no Shouboutai ดำเนินมาถึงส่วนสุดท้ายของเรื่องแล้วและผลงานเรื่องนี้จะเป็นมังงะเรื่องสุดท้ายของเขา แล้วแบบนี้เหล่าคอการ์ตูนจะพลาดได้อย่างไร 

ร่วมสนับสนุนผลงานของอาจารย์โอคุโบะในการผจญภัยของชินระได้แล้วใน อนิเมะ เรื่อง Enen no Shouboutai รับรองได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

อ้างอิง

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Fire_Force

นอกจากจะเชี่ยวชาญในการรังสรรค์เรื่องราวแฟนตาซีเหนือความจริงที่หลากหลายออกมาผ่านมังงะและ อนิเมะ มากมายแล้ว ยังมีการ์ตูนญี่ปุ่นอีกหนึ่งประเภทที่มักได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามและได้รับการชื่นชมอยู่เสมอเมื่อถูกนำเสนอต่อสายตาสาธารณชนนั่นคืออนิเมะเกี่ยวกับกีฬา โดยทั่วไปผู้เขียนมักจะวางเรื่องราวและตัวละครไว้ในวัยมัธยมซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงและอินไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากและเมื่อพูดถึงอนิเมะกีฬาบาสเกตบอลหลายคนคงนึกถึงอนิเมะในตำนานอย่าง Slam Dunk แต่สำหรับวันนี้อนิเมะเกี่ยวกับกีฬาบาสเกตบอลที่ทางเราอยากแนะนำอาจจะเรียกได้ว่าเป็นตำนานอนิเมะบาสเกตบอลรุ่นน้องที่ดังเปรี้ยงปร้างไม่แพ้รุ่นพี่อย่างSlam Dunkเลยทีเดียว นั่นคือ อนิเมะ เรื่อง Kuroko no Basket ผลงานโดยอาจารย์ฟูจิมากิ ทาดาโทชิ สำหรับฉบับมังงะ Kuroko no Basket ตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในเดือนธันวาคมปี2007ในนิตยสารโชเน็งจัมพ์รายสัปดาห์ ก่อนจะได้รวมเล่มตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ชูเอชะรวมทั้งสิ้น30เล่ม และถูกดัดแปลงเป็น อนิเมะ โทรทัศน์โดย Production I.G เผยแพร่ครั้งแรกในเดือนเมษายนปี2012 จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ซีซั่นยังไม่รวม OVA The movie และอื่น ๆ อีกมากมาย

เนื้อเรื่องย่อของอนิเมะเรื่อง Kuroko no Basket

อนิเมะ เรื่อง Kuroko no Basket บอกเล่าเรื่องราวของทีมบาสเกตบอลรุ่นปาฏิหาริย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดที่โรงเรียนมัธยมต้นเทย์โคเคยมีมาด้วยผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด 5 คนกับอีกหนึ่งผู้เล่นล่องหนที่แทบจะไม่มีใครจำได้จนได้ชื่อว่า “ผู้เล่นมายาคนที่6” แม้จะแข็งแกร่งแต่ทุกคนกลับตัดสินใจแยกย้ายกันไปอยู่คนละโรงเรียนในตอนมัธยมปลาย นำพาให้ผู้เล่นมายาคนที่6 คุโรโกะ เท็ตสึยะ ไปเจอกับแสงสว่างคนใหม่ของตนอย่าง คางามิ ไทกะ และได้ลั่นวาจาไปว่าจะเป็นเงาให้และคอยสนับสนุนจนกว่าไทกะจะกลายเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด

รีวิวความเห็นหลังได้ดูอนิเมะ

สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ต้องบอกว่ามีความดีงามทั้งเรื่องเสียง ภาพ รวมไปถึงเนื้อเรื่องที่ทำให้อินตามและเอาใจช่วยตัวละครนักกีฬาทุกคนจนลุ้นตัวโก่งในฉากการแข่งขันอย่างดุเดือนในสนามระดับประเทศ และยังจะได้แรงบันดาลใจจุดไฟเพิ่มความมุ่งมั่นในตัวเพื่อที่จะได้ไม่แพ้ตัวละครในเรื่องอีกด้วย สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นบาสหรือไม่รู้กติกาก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวมิตรภาพและความสัมพันธ์ของตัวละครที่ทำเอาน้ำตาซึมไปหลายฉากได้ไม่ยาก

หากต้องการเอาใจช่วยและลุ้นระทึกไปกับเหล่านักกีฬาบาสของเราสามารถติดตามรับชม อนิเมะ เรื่องKuroko no Basket อย่างถูกลิขสิทธิ์ใน Netflix Thailand ได้ทั้ง 3 ซีซั่น

อ้างอิง

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%B0_%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AA

Kirai de isasete เป็น มังงะวาย ที่เผยแพร่ครั้งแรกในปี2018 และได้รับผลตอบรับอย่างดีไม่น้อยเลยทีเดียว มังงะเรื่องนี้เป็นผลงานของอาจารย์ฮิจิกิ ตีพิมพ์เผยแพร่โดย b-boy Omegaverse Mercury ปัจจุบัน Kirai de isasete มีการตีพิมพ์ออกมาแล้ว2เล่ม ใน1เล่มประกอบไปด้วย6ตอน และล่าสุดก็มีการประกาศเผยแพร่ซีซั่นที่3ในนิตยสารของฝั่งญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในชื่อของYaoi หรือShounen Ai แต่อีกหนึ่งพล็อตเรื่องยอดฮิตที่จะไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับสายวายนั่นคือโครงเรื่องเกี่ยวกับOmegaverse (โอเมก้าเวิร์ส) ซึ่งเดิมเป็นคอนเซ็ปโครงเรื่องที่นิยมอย่างมากจากนิยายแฟนตาซีอีโรติก ก่อนจะแพร่ขยายส่งอิทธิพลอย่างกว้างขวางมาถึงทั้ง มังงะวาย และอนิเมะวายเพื่อสร้างสรรค์มิติใหม่ของจักรวาลOmegaverseให้ผู้เสพสื่อได้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักว่าOmegaverseคืออะไร ทางเราจะอธิบายอย่างง่ายโดยกล่าวได้ว่าOmegaverse คือ จักรวาลสมมติที่อิงพื้นฐานมาจากระบบชนชั้นปกครองในฝูงของหมาป่าที่มีการแบ่งชนชั้นตามเพศรองเป็นAlpha(อัลฟ่า) Beta(เบต้า) และOmega(โอเมก้า) ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องจะพุ่งเป้าไปที่อัลฟ่าซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นผู้นำที่แข็งแกร่งกับโอเมก้าที่เป็นชนชั้นล่างสุดของสังคม และสิ่งพิเศษที่ทำให้โครงเรื่องนี้ได้รับความนิยมใน มังงะวาย เพราะสิ่งพิเศษของโอเมก้าคือแม้ว่าเพศสภาพจะเป็นชายแต่ถ้าเพศรองเป็นโอเมก้าก็จะสามารถก้าวข้าวขีดจำกัดของเพศชายและสามารถตั้งครรภ์ได้ จึงทำให้ถูกนำมาปรับและเผยแพร่ซ้ำในวงการบอยเลิฟเป็นวงกว้าง Kirai de isasete ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หยิบยกจักรวาลโอเมก้ามาปรับใช้เช่นกัน

เนื้อเรื่องย่อของ มังงะวาย เรื่อง Kirai de isasete

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า มังงะวาย เรื่อง Kirai de isasete มีพื้นฐานมาจากโอเมก้าเวิร์ส นำโดยโอเมก้าอย่าง นาโอโตะ โคกะ ที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในช่วงมัธยม นาโอโตะโดนรุ่นพี่ที่เป็นอัลฟ่าในโรงเรียนข่มขื่นจนตั้งครรภ์ทำให้เขาเกลียดอัลฟ่าและไม่ต้องการสร้างพันธะกับอัลฟ่าคนไหนทั้งสิ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา และแม้จะเกิดจากความผิดพลาดแต่นาโอโตะก็ตัดสินใจเก็บเด็กคนนั้นไว้แล้วให้กำเนิด ชิสุกุ ออกมาและเลี้ยงดูเธอจนเติบโต ก่อนจะมาเจอกับ ฮาสุกิ สึชิยะ อัลฟ่าที่บอกกับนาโอโตะว่าต้องการจะเป็นคู่ชีวิตของเขา เรื่องราวความรักของนาโอตะกับฮาสุกิจะเป็นอย่างไรต่อไปก็สามารถติดตามต่อได้ใน มังงะวาย เรื่อง Kirai de isasete

รีวิวหลังอ่าน มังงะวาย เรื่อง Kirai de isasete

แม้จะดำเนินเรื่องอยู่บนพื้นฐานโอเมก้าเวิร์สที่มีความแฟนตาซีแต่อาจารย์ฮิจิกิก็ใส่ความสมจริงของสังคมปัจจุบันเข้าไปด้วยไม่ว่าจะเป็นการแบ่งชนชั้นทางสังคมหรือความสัมพันธ์ของครอบครัวก็ถูกถ่ายทอดออกมาใน Kirai de isasete ได้อย่างลงตัวและสมจริง ส่วนเรื่องงานภาพของ มังงะวาย เรื่องนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าลายเส้นสวยงามตัวเอกหล่อสวยจนทำให้ฟินตามๆกันไปได้ไม่ยาก ยังไม่นับคาร์แรคเตอร์ที่สุดแสนจะน่ารักของชิสุกุที่ทำเอาแม่ยกใจอ่อนไปตามๆกัน ดังนั้น Kirai de isasete จึงเป็นอีกหนึ่ง มังงะวาย ที่ไม่ควรพลาด

อ้างอิง

https://yaoi.fandom.com/wiki/Kirai_de_Isasete

https://myanimelist.net/manga/120891/Kirai_de_Isasete

https://twitter.com/saitokinako/status/1373940909579005953?s=20

สำหรับ Studio Ghibli นั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักแล้ว ทั้งความดังของการ์ตูนหลาย ๆ เรื่องที่ได้คะแนนในเว็บ IMDB สูงถึง 8 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าไม่ใช่การ์ตูนหรือหนังที่มีคุณภาพจริง ๆ ก็คงทำไม่ได้เพราะเป็นการลงคะแนนจากคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าคนแต่ละคนมีสไตล์การดูหนังหรือการ์ตูนที่ชอบแตกต่างกันอยู่แล้ว การที่จะได้คะแนนสูงขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย ส่วนการ์ตูนที่สร้างชื่อเสียงแบบสุด ๆ ให้ Studio Ghibli นั้นก็คือเรื่อง Spirited Away ที่ได้คะแนนใน IMDB สูงถึง 8.6 คะแนน กวาดรางวัลมาแล้วมากมายรวมถึงรางวัลออสการ์ด้วย แต่วันนี้การ์ตูนเรื่องที่เราจะมาพูดถึงไม่ใช่ Spirited Away แต่คือ Howl’s Moving Castle หรือปราสาทเวทมนต์ขอลฮาวล์นั่นเอง

ปราสาทเวทมนต์ของฮาวล์ หนึ่งในการ์ตูนสุดแฟนตาซีจาก Studio Ghibli

ปราสาทเวทมนต์ของฮาวล์จะเล่าเรื่องของเด็กสาวคนหนึ่งชื่อว่า โซฟี แฮตเตอร์ ลูกสาวคนโตของร้านทำหมวกที่มีหน้าที่ต้องดูแลร้านต่อจากคุณพ่อที่เสียไป วะนหนึ่งขณะที่โซฟีได้เดินทางไปหา เล็ตตี้ น้องสาวของเธอ โซฟีได้พบกับทหารสองคนที่พยายามจะลวนลามเธอแต่เธอถูกช่วยไว้จากพ่อมดหนุ่มคนหนึ่ง ตกดึกคนนั้นได้มีแม่มดคนหนึ่งมาหาเธอที่ร้านและได้สาปให้เธอกลายเป็นคนแก่อายุ 90 และได้บอกเงื่อนไขของคำสาปคือ เธอจะบอกเรื่องคำสาปนี้ให้ใครรู้ไม่ได้ โซฟีจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านและระหว่างทางเธอก็ได้พบเพื่อนใหม่เป็นหุ่นไล่กา เธอเรียกว่า หัวผักกาด โซฟีพูดกับหัวผักกาดว่าเธอต้องการที่พักเพื่อหลบหนาวในคืนนี้เขาพอจะช่วยเธอได้ไหม หัวผักกาดหาดไปซักพักก็กลับมาพร้อมกับปราสาทที่เดินได้ มันคือปราสาทของฮาวล์นั่นเอง เธอได้เข้าไปหลบอยู่ในปราสาทและได้พบกับ แคลซิเฟอร์ ปีศาจไฟผู้ดูแลปราสาท แคลซิเฟอร์และโซฟีได้ตกลงทำสัญญากันโดยแคลซิเฟอร์เสนอว่าจะถอนคำสาปให้เธอหากเธอช่วยให้เขาหลุดจากมนต์สะกดของฮาวล์ที่ผูกเขาไว้กับปราสาทได้ ในตอนเช้า มาร์เคิล เด็กฝึกงานของฮาวล์ได้พบกับโซฟีซึ่งในตอนแรกเขาดูไม่ค่อยชอบเธอนักแต่ต่อมาก็รักเหมือนพี่สาว

 เมื่อฮาวล์กลับมาถึงบ้านโซฟีก็ประกาศตัวว่าเป็นคนทำความสะอาดและยืนยันจะให้ฮาวล์จ้างเธอไว้เพราะปราสาทอยู่สภาพสกปรกทรุดโทรมมาก ฮาวล์รับรู้ได้ถึงความผิดปกติขอลแคลซิเฟอร์แต่ก็ไม่ได้สนใจเอาความเรื่องการทำสัญญาระหว่างโซฟีและแคลซิเฟอร์จึงเป็นความลับต่อไป เรื่องราวทั้งหมดจะอยู่กับการถอดคำสาปให้ทุก ๆ คนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น โซฟี ฮาวล์ หรือแคลซิเฟอร์ ซึ่งเนื้อเรื่องจะมีการเล่าอดีตของตัวละครฮาล์วด้วย แถมภาพก็สวยมากกก ใครที่ชอบการ์ตูนแฟนตาซีไม่ควรพลาดเลย เนื้อเรื่องก็ดีแถมตัวละครฮาวล์ยังหล่อมากอีกด้วย

สรุปการ์ตูนเรื่อง ปราสาทเวทมนต์ของฮาวล์

ปราสาทเวทมนต์ขอลฮาวล์เป็นการ์ตูนแฟนตาซีจากค่าย Studio Ghibli ที่ได้คะแนนในเว็บ IMDB ไปถึง 8.6 คะแนน แถมมีรางวัลการันตีอีกเพียบ หนึ่งในรางวัลที่การ์ตูนเรื่องนี้เคยได้คือ Osella Award สาขาเทคนิคภาพยนตร์ในงาน Venice File Festival ที่ประเทศอิตาลี เนื้อเรื่องถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมแนวแฟนตาซีจากผู้เขียนชาวอังกฤษ ไดแอนา ไวนน์ โจนส์ เนื้อเรื่องดีมากสมกับเป็น Studio Ghibli ภาพสวย ใครที่เป็นสายแฟนตาซีไม่ควรพลาดเลยยย

Shaman King เป็นอนิเมะที่ฉายในช่วงปี 2545 ค่อนข้างเก่าทีเดียวสำหรับใครที่เป็นคออนิเมะสมัยใหม่อาจจะไม่เคยดูภาคเก่าก่อนที่จะถูกนำมารีเมค บอกเลยว่าถ้าใครยังไม่เคยดูควรจะไปหาดูก่อนที่จะมาดูภาครีเมคเพราะเราจะสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ส่วนตัวเราเคยดูภาคเก่าก่อนที่จะมาดูภาครีเมคของปี 2021 ซึ่งเราไม่ชอบเลย เพราะรู้สึกว่ามันเร็วเกินไปหลาย ๆ อย่าง ทั้งเนื้อเรื่อง การเจอกันของตัวละคร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลด้วย ภาคใหม่ตัวการ์ตูนสวยขึ้นเยอะหลาย ๆ คนอาจจะชื่นชอบมากกว่าภาคเก่า

Shaman King อนิเมะที่หลาย ๆ คนคิดถึง

Shaman King เป็นเนื้อเรื่องของ อาซาคุระ โย เด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีพลังในการมองเห็นวิญญาณเพราะเกิดในตระกูลชาแมน ซึ่งในอดีตเคยเป็นตระกูลที่มีอิธิพลมากเนื่องจากพลังวิญญาณอันมหาศาลของ อาซาคุระ ฮาโอ ผู้นำตระกูลในอดีต แต่ด้วยความที่ฮาโอมีพลังที่แข็งแกร่งมากและมีความคิดที่ผิดแปลกไปโดยการจะที่จะฆ่าทุกคนที่ไม่ใช่ชาแมนทิ้ง ความคิดนี้เป็นภัยอันตรายมากเขาจึงถูกกำจัดทิ้งและผนึกวิญญาณเอาไว้ไม่ให้มาเกิดอีก ผ่านไป 1,000 ปีผนึกได้แตกออกและฮาโอได้มาเกิดใหม่เป็นฝาแฝดของโย นั่นจึงทำให้โยต้องเข้าร่วมการแข่งขัน Shaman Fight เพื่อที่จะได้เป็นชาแมนคิง เรื่องราวแอคชั่นแฟนตาซีที่น่าติดตามนี้ทำให้ช่วงที่ Shaman King ฉายที่ประเทศไทยนั้นได้รับความนิยมสูงมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักอนิเมะเรื่องนี้เลย นั่นส่งผลให้ยอดขายมังงะเรื่องนี้พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ด้วยความที่เป็นมังงะยาวจึงถูกบังคับให้ตัดจบและกลายเป็นตอนจบแบบปาหมอนเหมือนอย่างที่หลาย ๆ คนเรียก นั่นทำให้มีหลาย ๆ คนเรียกร้องให้ผู้เขียนเปลี่ยนตอนจบใหม่เลยทีเดียว

• 

• 

สรุปอนิเมะ Shaman King

Shaman King ในสมัยก่อนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีคนที่ไม่รู้จัก ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตามและยังเป็นอนิเมะแอคชั่นเอาใจเด็กผู้ชายด้วยนั่นยิ่งทำให้ได้รับความนิยมสูงมากขึ้นไปอีก แล้วในปี 2021 Shaman King ก็ถูกนำกลับมารีเมคใหม่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ทั้งเปลี่ยนสไตล์การวาดตัวละครหรือจะเป็นการเปลี่ยนเนื้อเรื่องในตอนจบเพื่อให้ถูกใจแฟนคลับอีกด้วย ถ้าใครยังไม่เคยดูก็ควรรีบไปดูก่อนที่จะฉายจบซะล่ะเพราะเห็นทางออฟฟิเชียลออกมาบอกว่าจะทำภาค 2021 ให้เหมือนกับในมังงะด้วย ถ้าดองไว้อาจจะขี้เกียจดูก็ได้เพราะมันเยอะมากกก