โปเกม่อน เดอะมูฟฟี่ โคโค่ มนุษย์เด็กน้อยที่ถูกนำมาทิ้งไว้กลางป่าลึก จนได้มีสมาชิกของคนหนึ่งที่เรียกตนเองว่า ซารู้ด มีลักษณะคล้ายกับหมาป่า อยู่กันเป็นกลุ่มแบบชนเผ่า เขาได้เก็บโคโค่ไปเลี้ยงไว้เป็นลูก แม้จะขัดต่อคำสั่งท่านหัวหน้า เขายอมที่จะแหกกฎและถูกไล่ออกมาให้อยู่ตามลำพังกับเด็กน้อยคนนั้น แต่เพื่อให้โคโค่ได้มีพ่อเขาจึงยอมทำ เวลาผ่านไปโคโค่ได้เติบโตขึ้น จิตใจเป็นดั่งซารู้ด แต่ร่างกายเขากลับเป็นมนุษย์ โคโค่แคลงใจมาตลอดว่าเขาคือซารู้ดจริง ๆ หรือไม่ แต่พ่อจ๋าของเขาก็บอกว่าเขาคือซารู้ด วันหนึ่งเขาได้พบกับ ซาโตชิและปิกาจู ซึ่งเป็นโปเกม่อน ของซาโตชิ โคโค่ถึงได้เรียนรู้วิถีความเป็นมนุษย์ และค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นมนุษย์ต่างหาก ปัญหาทางใจโคโค่ยังไม่ทันได้เคลียร์กับพ่อ ก็มีปัญหาอื่นเข้ามาแทรกเสียแล้ว เมื่อได้มีนักวิจัยเข้ามาสำรวจและเก็บตัวอย่างที่สายน้ำศักดิ์สิทธิ์ในป่าแห่งนี้ แต่พวกเขาคิดชั่วร้าย หวังจะยึดเอาไปเป็นของตนเอง โคโค่ เหล่าซารู้ดและโปเกม่อนจึงต้องช่วยกันปกป้องบ้านเกิดของตนเองเอาไว้ให้ได้
โปเกม่อน เดอะมูฟฟี่ การอยู่ร่วมกันของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น
เราจะเห็นได้ว่า โคโค่ ที่เป็นมนุษย์ ถูกเก็บไปเลี้ยงโดยหมาป่าแห่งซารู้ด ถึงแม้ว่าจะต่างสายพันธุ์กัน แต่ด้วยใจที่รักใคร่ผูกพัน ทำให้พ่อก็รักและเอ็นดูโคโค่ราวกับลูกแท้ ๆ ส่วนโคโค่ก็รักพ่อจ๋าของเขาเหมือนพ่อแท้ ๆ เช่นกัน มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันกับสัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ได้ เราไม่จำเป็นต้องอยู่สปีชีส์เดียวกัน แต่มีใจเมตตาและเข้าอกเข้าใจกันก็พอ แม้จะพูดคนละภาษาแต่ก็สามารถเข้าใจกันได้ด้วยหัวใจ เช่นเดียวกับ ซาโตชิและโปเกม่อน ของเขาที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คงเหมือยนมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง ถึงแม้ว่าต่างคน่างจะไม่เข้าใจกัน แต่เราต่างอยู่กันด้วยความรักความผูกพันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
แม้ว่าตอนจบของโปเกม่อน เดอะมูฟฟี่ ตอน ความเจ็บปวดของป่าลึก โคโค่จะรู้ความจริงว่าเขาเป็นมนุษย์แต่เขาก็ยังรักและเคารพพ่อจ๋าของเขาตลอดไป และถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นลูกพ่อจ๋าเสมอ ส่วนพ่อจ๋าเองที่กักขังโคโค่ไว้ในป่ามาโดตตลอด เขาได้ยอมให้โคโค่ออกไปท่องโลกว้างได้ตามใจตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อสมควรทำอย่างยิ่ง และเขาก็ได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่า เขาสมควรกับหน้าที่คนเป็นพ่อจริง ๆ และไม่ว่าครอบครัวไหน ก็ควรให้อิสระลูกให้มาก ๆโปเกม่อน เดอะมูฟวี่ จึงเป็น ภาพยนตร์สำหรับครอบครัว ที่สามารถดูกันทั้งครอบครัวได้
บ้านเกิดใคร ใครก็รัก
ภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง โปเกม่อน สะท้อนได้ดีถึงเรื่องความโลภมากของมนุษย์ ที่อยากจะได้ของที่ไม่ใช่ของตนเอง แม้แต่นักวิจัยที่ดูเหมือนจะเป็นพลเมืองดีในการค้นหาและวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างของน้ำฝนป่าลึกแห่งนี้ แต่สุดท้ายเมื่อได้เห็นความพิเศษของมันว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ก็เกิดความโลภขึ้น อยากจะครอบครองเอาไว้เป็นของตนเอง โดยไม่สนใจว่าผลที่ตามมาคืออะไร
โคโค่ ซาโตชิ ปิกาจู ซารู้ดและเหล่าโปเกม่อน จึงได้ช่วยกันเพื่อที่จะปกป้องน้ำศักดิ์สิทธิ์และผืนป่าที่เป็นบ้านเกิดของพวกเขาเอาไว้ให้ได้ ถ้าเปรียบเทียบก็คงเหมือนการกระทำของมนุษย์ในชีวิตจริง ที่บุกรุกพื้นที่ป่าทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทำให้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ธรรมชาติและสัตว์ป่า เพื่อสนองแต่ความต้องการและกิเลสของตนเอง หากในชีวิตจริงสัตว์ป่าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดของตนเองได้เหมือนกับเหล่าโปเกม่อน ได้ก็คงดี แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ มีสัตว์ป่ามากมายที่ต้องตายเพราะไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหารการกิน และตายเพราะถูกไฟไหม้จากฝีมือมนุษย์ อนิเมะ เรื่องนี้จึงอยากจะสอนทุกคนไปในตัวด้วยว่าไม่ว่าบ้านเกิดใครใครก็รักทั้งนั้น ลองนึกภาพว่าหากมีใครมารุกรานบ้านเรา เราก็คงจะสู้ขาดใจเหมือนกัน
สนับสนุนโดย : https://paperindustrymag.com